ด้วยความที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เป็นกุนซือที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ทำให้เขาได้มีโอกาสร่วมงานกับนักเตะชื่อก้องหลายคนทั้งที่เติบโตมาจากอะคาเดมี่ของสโมสรเอง และจากการดึงมาจากทีมอื่นๆ ซึ่งชื่อของคนอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เอริก คันโตน่า, เดวิด เบ็คแฮม, ไรอัน กิ๊กส์, พอล สโคลส์, รุด ฟาน นิสเตลรอย ฯลฯ คงจะเป็นชื่อแรกๆ ที่โผล่มาในหัวของหลายคนในทางกลับกัน โจนาธาน กรีนนิ่ง อาจจะไม่ได้เป็นชื่อที่ถูกนึกถึงมากนัก

หากพูดถึงคนที่เคยร่วมงานกับ เฟอร์กูสัน ในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ซึ่งมันก็ไม่น่าเซอร์ไพรส์อะไรเพราะว่า กรีนนิ่ง ไม่ได้เป็นลูกหม้อของ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยตรง, อยู่กับทีมแค่ช่วงปี 1998-2001 และได้ลงเล่นให้ทีมไปแค่ 27 นัดในทุกรายการเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ช่วงที่เขาอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เขาก็เคยได้สัมผัสกับช่วงเวลาที่เจ้าตัวยกให้เป็นความทรงจำที่ยากจะลืมได้ และคนที่มีส่วนทำให้เกิดเรื่องนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็น เฟอร์กูสัน นั่นเอง ย้อนความหลังก่อนว่า แมนฯ ยูไนเต็ด มองเห็นแววรุ่งของ กรีนนิ่ง ที่ตอนนั้นเล่นอยู่กับ ยอร์ค ซิตี้ ทีมในระดับ เซคคั่นด์ ดิวิชั่น จนทำให้ตัดสินใจติดต่อให้เขาเข้ามาทดสอบฝีเท้ากับทีมเป็นเวลา 4 วัน ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1998 และสุดท้าย แมนฯ ยูไนเต็ด ตัดสินใจมอบสัญญาให้เขาในช่วงเดือนมีนาคมของปีเดียวกัน 500,000 ปอนด์ คือค่าตัวในเบื้องต้นที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จ่ายให้ ยอร์ค ซิตี้ โดยมีเงื่อนไขที่อาจจะทำให้เพิ่มไปเป็น 2 ล้านปอนด์ได้ ซึ่งตัวเลขนั้นต่างกับค่าเหนื่อยที่ กรีนนิ่ง ได้รับกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ราวฟ้ากับเหว เพราะตอนนั้นแข้งชาวอังกฤษได้รับค่าเหนื่อยแค่สัปดาห์ละ 400 ปอนด์

โดยสาเหตุที่เขาเซ็นสัญญากับทีมทั้งที่ค่าเหนื่อยมันน้อยขนาดนั้นเป็นเพราะเจ้าตัวตื่นเต้นที่จะได้มาเล่นกับ

แมนฯ ยูไนเต็ด มากๆ จนตัดสินใจเซ็นสัญญาทั้งที่ไม่ได้อ่านสัญญาให้ละเอียด หลังจากมาอยู่กับทีมตั้งแต่เดือนมีนาคมของปี 1998 กรีนนิ่ง ต้องรอจนถึงช่วงเดือนตุลาคมของปีเดียวกันกว่าที่จะได้ประเดิมสนามให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยมันเกิดขึ้นในเกม ลีก คัพ รอบ 3 นัดที่เจอกับ บิวรี่ ซึ่งวันนั้นเขาได้ลงเล่นเป็นตัวจริงด้วย แน่นอนว่าสำหรับคนเป็นนักเตะแล้วนั้น

พวกเขาย่อมอยากให้คนในครอบครัวหรือคนรักมาเป็นประจักษ์พยานในเกมสำคัญแบบนี้ ยิ่งการที่ตอนนั้นกรีนนิ่งมีอายุแค่ 19ปี ทำให้เขายิ่งตื่นเต้นมากเป็นพิเศษปัญหาก็คือกรีนนิ่งมารู้ว่าตัวเองจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงจากปากของเฟอร์กูสัน ในช่วงราว 1 ชั่วโมงครึ่งก่อนลงเล่นเท่านั้นเพราะตอนแรกเฟอร์กูสันบอกเพียงว่าเขาจะเป็นหนึ่งในคนที่มีชื่อติดทีมชุดเจอกับ บิวรี่ อย่างไรก็ตาม กรีนนิ่งไม่รู้เลยว่าที่จริงเฟอร์กูสัน ให้ความสำคัญกับเขามากๆแม้ว่าเขาจะเป็นเพียงนักเตะอายุน้อยก็ตามเพราะว่าอดีตบรมกุนซือชาวสกอตต์แอบติดต่อกับครอบครัวของกรีนนิ่งและชวนพวกเขามาชมเกมนี้ตั้งแต่ก่อนที่จะบอกกับกรีนนิ่งว่าจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมนั้นแล้ว”เฟอร์กูสันปฏิบัติกับผมได้ยอดเยี่ยมมากๆ”อดีตแข้งวัย 42 ปี เปิดอก”ผมจำวันประเดิมสนามของผมได้ขึ้นใจเลย เขาไม่ได้บอกผมด้วยซ้ำว่าผมจะได้ลงเล่นตอนแรกเขาบอกแค่ว่าผมจะมีชื่ออยู่ในทีมแต่แล้วพอถึงช่วง1ชั่วโมงครึ่งก่อนที่จะเริ่มเตะน่ะเจ้านายก็มาบอกว่าผมจะได้เป็นตัวจริง””ตอนนั้นผมคิดกับตัวเองว่า -เจ๋งไปเลย-และอยากบอกคุณแม่กับคุณพ่อของผม แต่ที่จริง เฟอร์กี้ เชิญพวกท่านกับคนอื่นๆในครอบครัวมาที่สนามก่อนแล้วโดยที่ผมไม่รู้เรื่องเลย

พวกท่านรู้ก่อนผมอีกว่าผมจะได้ประเดิมสนาม” สุดท้ายแล้วการมีคนในครอบครัวมาอยู่ที่สนามก็เป็นแรงกระตุ้นชั้นยอดให้กับ กรีนนิ่ง เพราะวันนั้นเขาเล่นได้ดีจนได้เครดิตจากการผ่านบอลให้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ทำประตูได้ด้วย “มันเป็นการกระทำที่ยอดเยี่ยมมากๆ สำหรับเขา ผมคิดว่ามันช่วยทำให้ผมเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้ ถ้าจำไม่ผิดเกมนั้นผมได้เป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ด้วย วันนั้นเราเป็นฝ่ายชนะ และผมจำได้ดีเลยว่าตอนนั้นผมคิดกับตัวเองว่า -ฉันโชคดีแค่ไหนกันเนี่ย ?- ผมเพิ่งได้ลงเล่นต่อหน้าคน 60,000 คน

ติดตามบทความข่าวสารอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ hotelbarderosa.com